การเปื้อนสารกัมมันตรังสี (3) การขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี (Radioactive Decontamination)

ข้อมูลจากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

Artboard 1

นันทวรรณ ยะอนันต์
ศูนย์จัดการกากกัมมันตรังสี
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

  1. บทนำ (Introduction)

ในการใช้ประโยชน์ของวัสดุกัมมันตรังสีนั้น เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการทำงาน ทั้งในด้านตัวบุคคล และสถานที่ปฏิบัติงาน การป้องกันการเปื้อนสารกัมมันตรังสีเป็นความปลอดภัยทางรังสีเรื่องหนึ่ง การปฏิบัติงานกับวัสดุกัมมันตรังสี ต้องคำนึงถึงการออกแบบสถานที่หรือห้องปฏิบัติการทางรังสี มีการวางแผนการทำงานที่ดี และมีขั้นตอนในการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง เพื่อลดการทำผิดพลาด และเพื่อป้องกันการเปื้อนสารกัมมันตรังสี ซึ่งการเปื้อนไม่ควรให้เกิดขึ้นในผลิตภัณฑ์ อุปกรณ์ เครื่องมือ รวมถึงเสื้อผ้าผู้ปฏิบัติงาน และอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น โรงงานอุตสาหกรรมผลิตยาเภสัชรังสี โรงพยาบาล และห้องปฏิบัติการทางรังสีต่าง ๆ ควรมีการระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งในด้านการเปื้อนสารกัมมันตรังสี เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพของผู้ป่วย และผู้ปฏิบัติงานในสถานที่นั้น ๆ และยังรวมไปถึงสาธารณชน และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

การเปื้อนสารกัมมันตรังสี (radioactive contamination) เป็นผลมาจากการสัมผัสระหว่างวัสดุกัมมันตรังสีชนิดไม่ปิดผนึก กับผิวของสิ่งต่าง ๆ อาจเป็นวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้งาน หรือผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งพื้นที่ปฏิบัติงาน ซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ เช่น การตก หล่น แตก ของภาชนะใส่สารกัมมันตรังสี และการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสี เป็นต้น

การชำระล้างการเปื้อนสารกัมมันตรังสี (decontamination) หมายถึง กระบวนการใด ๆ ที่จะลด หรือขจัดการเปื้อนของ

สารกัมมันตรังสีออกจากพื้นผิว นั้น ๆ โดยอาจใช้กระบวนการทางกายภาพ เคมี กลศาสตร์ และไฟฟ้าเคมี เป็นต้น

เหตุผลจำเป็นที่ต้องมีการชำระล้างการเปื้อนสารกัมมันตรังสี คือ

(1)เพื่อสุขภาพอนามัย จำเป็นต้องลดระดับการเปื้อนสารกัมมันตรังสี เพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน

(2)การเปื้อนนั้นรบกวนในการนับวัดรังสี ต้องขจัดการเปื้อนเพื่อให้งานนับวัดรังสีมีค่าที่ถูกต้อง

(3)เพื่อให้การปฏิบัติงานประจำ หรืองานซ่อมบำรุง เป็นไปอย่างเรียบร้อยและปลอดภัย

(4)เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถจะทิ้งหรือซ่อมแซม อุปกรณ์ เครื่องมือ ได้อย่างปลอดภัย

(4)เพื่อให้ระดับการเปื้อนสารกัมมันตรังสีของสิ่งนั้น ๆ ลดลง และสามารถนำกลับมาใช้ได้อีก

2. การขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี (Radioactive Decontamination)

2.1 หลักเกณฑ์ทั่วไปในการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี (General Concept)

  • ตรวจสอบสถานที่ที่เปื้อนสารกัมมันตรังสี และชนิดของนิวไคลด์กัมมันตรังสี
  • รีบดำเนินการขจัดทันทีหลังเกิดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี
  • ใช้กระบวนการขจัดแบบเปียก
  • การเลือกใช้สารขจัดให้เหมาะสม
  • ปล่อยให้สารกัมมันตรังสีสลายไปเอง ในกรณีเป็นสารที่มีครึ่งชีวิตสั้น

2.2 กระบวนการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี (Decontamination Process)

เทคนิคการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสีอาจเริ่มจากเทคนิคที่ง่ายไม่มีความยุ่งยาก เช่น การทำความสะอาดแบบธรรมดาทั่วไป จนถึงเทคโนโลยีชั้นสูงที่ต้องอาศัยเครื่องมือ หรือสารเคมีต่าง ๆ โดยทั่วไป เทคนิคการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสีควรเริ่มจากวิธีการที่ไม่รุนแรง เช่น การทำความสะอาดโดยใช้วิธีดูดแบบสุญญากาศ (vacuum cleaning) สามารถใช้ขจัดการเปื้อนแบบหลวม ๆ ได้ ถ้าเป็นการเปื้อนแบบขจัดได้ยาก อาจจะใช้วิธีที่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เช่น การขัดถูพื้นผิวด้วยเครื่องมือกล หรือถ้าเป็นการเปื้อนบางชนิดอาจใช้วิธีเคมีไฟฟ้า เป็นต้น

การเลือกเทคนิคการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี

ขึ้นอยู่กับชนิดของการเปื้อนสารกัมมันตรังสี และสถานการณ์นั้น ๆ ว่ามีความจำเป็น หรือเหมาะสมแบบใด เทคนิค และกระบวนการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี แบ่งออกเป็น

  • กระบวนการทางกายภาพ (physical process)
  • กระบวนการทางกลศาสตร์ (mechanical process)
  • กระบวนการทางไฟฟ้าเคมี (electrochemical process)
  • กระบวนการทางเคมี (chemical process)

2.2.1 กระบวนการทางกายภาพ (Physical Processes)

ขั้นตอนทั่วไปของกระบวนการทางกายภาพ คือ การขจัดการเปื้อนโดยการถู (rubbing) หรือให้พื้นผิวถูกเขย่า (shaking surfaces) เพื่อให้สารกัมมันตรังสีหลุดออกไป ตัวอย่างเช่น

  • การดูดแบบสุญญากาศ (vacuum cleaning)
  • การถูพื้น (scrubbing)
  • น้ำล้างแบบใช้แรงดัน (water jetting)
  • การล้างโดยอัลตราโซนิก (ultrasonic cleaning)
  • การใช้สีลอก (strippable coating)

2.2.2 กระบวนการทางกลศาสตร์ (Mechanical Process)

ขั้นตอนทั่วไปของกระบวนการทางกลศาสตร์ คือ การใช้วัสดุหรือเครื่องมือกลเข้าช่วยในการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี ตัวอย่างเช่น

  • abrasive cleaning เช่นการขัดถูผิวที่เปื้อนด้วยกระดาษทราย หรือใช้เครื่องมือขัดแรง ๆ
  • vibratory cleaning เช่น ใช้เครื่องเขย่าร่วมกับสารชำระล้าง

2.2.3 กระบวนการทางไฟฟ้าเคมี (Electrochemical Process)

เป็นการประยุกต์ใช้เซลล์ไฟฟ้าเคมีเข้าช่วยในการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสีของผิวโลหะ มีหลักการคือให้โลหะที่เปื้อนเป็นขั้วแอโนด (anode) โดยมีสารละลายอิเล็กโทรไลต์(electrolyte) เมื่อผ่านกระแสไฟฟ้า จะทำให้สาร

กัมมันตรังสีที่ผิวโลหะหลุดออก โดยมีการแตกตัวเป็นไอออนและไปจับที่อีกขั้วหนึ่ง เรียกเทคนิคนี้ว่า electro-polishing นิยมใช้ในการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสีแบบ fixed contamination บนชิ้นโลหะ ที่ขจัดออกได้ยาก

2.2.4 กระบวนการทางเคมี (Chemical Process)

  • reductive methods วิธีนี้ใช้ในการขจัดออกไซด์ (OH) ของโลหะ โดยใช้กรด (H+) ออกไซด์ของโลหะที่เปื้อนจะเกิดเป็น hydrate metal ion ละลายในน้ำ ทำให้ชำระการเปื้อนสารกัมมันตรังสีได้

oxidative methods วิธีนี้ใช้กับการขจัดการเปื้อนของโครเมียม (Cr3+) โดยใช้กรดเข้มข้น (concentrated acid) โดย Cr3+ จะเปลี่ยนเป็น Cr6+ ซึ่งละลายน้ำได้

2.3 สารขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสีและเทคนิคการประยุกต์ใช้ (Shimooka, 1998) (Decontamination Agents and Application Techniques)

วัสดุที่เปื้อนสารกัมมันตรังสี สารชำระล้าง
ผิวหนัง -สบู่ น้ำมันผิวส้ม (orange oil)
เสื้อผ้า -สารซักฟอก (detergent)
แก้ว -10% กรดไนตริก หรือ 2% แอมโมเนียมไบฟลูโอไรด์
-10% กรดเกลือ (HCl)
อะลูมิเนียม -10% กรดไนทริก โซเดียมเมทาซิลิเคต
-โซเดียมเมทาฟอสเฟส
เหล็ก -กรดฟอสฟอริก
ตะกั่ว -เริ่มด้วย 4 N HCl แล้วตามด้วยสารละลายเจือจาง
-alkaline และตามด้วยน้ำ
พื้นผิวที่ทาสี -แอมโมเนียมซิเทรต หรือแอมโมเนียมไบฟลูโอไรด์
คอนกรีต -10% กรดเกลือ (HCl) แต่ยากที่จะขจัดการเปื้อนได้หมด
ไม้ -ยากที่จะชำระล้างการเปื้อนสารกัมมันตรังสี

2.4 แฟกเตอร์การขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี (Decontamination Factor: FD)

decontamination factor (FD) เป็นค่าสัดส่วนของค่ากัมมันตภาพรังสีที่ตรวจวัดได้ก่อนการขจัดและหลังการขจัดการเปื้อนสารกัมมันตรังสี การขจัดที่ได้ผลดีจะได้ decontamination factor สูง

FD = activity before the first decontamination stage

activity after the particular decontamination stage

residual activity (AR ) เป็นค่าการเปื้อนสารกัมมันตรังสีที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งนิยมใช้ในหน่วยของร้อยละ (%)

  AR = (1/ FD ) x 100

3. เอกสารอ้างอิง (Referrences)

  1. IAEA, “ Manual on Decontamination of Surface”, Safety Series No.48, International Atomic Energy Agency, Vienna, 1979
  2. National Health and Medical Research Council, “Recommended Limits on Radioactive Contamination on Surfaces in Laboratories (1995), Radiation Health Series No.38, National Health and Medical Research Council, Canberra, 1995.
  3. Shimooka Kenji, “Decontamination Monitoring and Decontamination Method”, Nuclear Technology and Education Center, Japan Atomic Research Institute, Tokai mura, 1998.

ใส่ความเห็น

เข้าสู่ระบบ

Only administrators can add new users.

เข้าสู่ระบบ